วันนี้ (7 พ.ย.) นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา รัฐมนตรีว่การกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เปิดเผยภายหลังหารือกับ ศ.ดร.ศิริชัย กาญจนวาลี คณบดีคณะครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และนายชินภัทร ภูมิรัตน เลขาธิการ คณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (เลขาธิการ กพฐ.) เพื่อหารือเรื่องการเลื่อนกำหนดเปิดภาคเรียนให้ตรงกับระบบของอาเซียน ว่า คณบดีคณะครุฯ จุฬาฯ มาพบเพื่อหารือกับ สพฐ.ขอให้เลื่อนกำหนดเปิดภาคเรียนของโรงเรียนระดับการศึกษาขั้นพื้นฐานออกไป เพราะถ้า สพฐ.ยังยืนกรานเปิดภาคเรียนกลางเดือน พ.ค.ตามเดิมแล้ว จะส่งผลกระทบต่อนักศึกษาสายครุฯ และศึกษาศาสตร์ ทั้งนี้ ตามหลักสูตรครู 5 ปีนั้น หลังจากเรียนจบปี 4 แล้ว นักศึกษาจะต้องฝึกสอนให้ครบ 1 ปี จึงจะมีสิทธิ์ขอจบการศึกษา แต่ ถ้ากำหนดการเปิดภาคเรียนของโรงเรียนจะไม่เลื่อนตามนักศึกษาที่เรียนจบปี 4 แล้ว จะไม่สามารถเข้าไปฝึกสอนได้ทันภาคเรียนที่ 1 ของโรงเรียน จะต้องไปฝึกสอนในภาคเรียนที่ 2 แทน ทำให้นักศึกษาเสียเวลา และอาจส่งผลให้นักศึกษาสำเร็จการศึกษาล่าช้ากว่ากำหนด อย่างไรก็ตาม เลขาธิการ กพฐ.ชี้แจงว่า สพฐ.น่าจะสามารถเลื่อนกำหนดเปิดภาคเรียนออกไปได้ประมาณ 2 สัปดาห์ หรือ 20 วัน
ด้าน ศ.ดร.ศิริชัย กล่าว ว่า กำหนดเปิดภาคเรียนของมหาวิทยาลัยที่ปรับใหม่ให้เข้ากับระบบเปิดภาคเรียนของ อาเซียนนั้น จะเริ่มใช้ตั้งแต่ปีการศึกษา 2557 โดยให้เปิดภาคเรียนที่ 1 กลางเดือน ส.ค.ถึงกลางเดือน ธ.ค.และภาคเรียนที่ 2 เปิดภาคเรียนกลาง ม.ค.ถึงกลาง พ.ค.ขณะที่ สพฐ.เปิดภาคเรียนที่ 1 กลางเดือน พ.ค.เพราะฉะนั้น นักศึกษาที่เรียนจบปี 4 ซึ่งจะจบช่วงกลางเดือน พ.ค.จะสามารถเข้าไปฝึกสอนในโรงเรียนได้ทัน อาจทำให้ต้องสำเร็จการศึกษาล่าช้าออกไป แต่หากโรงเรียนเลื่อนเปิดภาคเรียนออกไป 2 สัปดาห์ นักศึกษาก็จะมีเวลาเตรียมตัวเข้าฝึกสอนได้ทัน นอกจากนั้น หาก สพฐ.ประกาศเลื่อนกำหนดเปิดภาคเรียนออกไปจริง ก็จะทำโรงเรียนสาธิตของมหาวิทยาลัยต่างๆ ซี่งจะสถานที่ฝึกสอนสำคัญของนักศึกษาครุศาสตร์/ศึกษาศาสตร์นั้น กล้าเลื่อนกำหนดเปิดภาคเรียนออกไปตามด้วย
ขณะที่ นายชินภัทร กล่าวว่า ข้อ สรุปเบื้องต้นนั้น สพฐ.จะเลื่อนกำหนดเปิดภาคเรียนออกไป 2 สัปดาห์ หรือ 20 วัน จากกลางเดือน พ.ค.เป็นต้นเดือน มิ.ย.แต่จะต้องนำข้อเสนอนี้ไปสอบถามความเห็นจากผู้มีส่วนได้ส่วนเสียก่อน ไม่ว่าจะเป็นนักเรียน ผู้ปกครอง และสถานศึกษา ซึ่ง คงจะมีการจัดประชุมระดมความเห็นในเร็วๆ นี้ ทั้งนี้ เพราะการเลื่อนเปิดภาคเรียนของโรงเรียนขั้นพื้นฐานนั้น ถือว่า เป็นเรื่องที่ส่งผลกระทบสูง มีนักเรียนเกี่ยวข้องถึง 10 ล้านคน อย่างไรก็ตาม จะต้องได้คำตอบที่แน่ชัดว่า สพฐ.จะเลื่อนหรือไม่เลื่อนเปิดภารเรียนภายในเดือน พ.ย.
“สพฐ.ไม่ ได้พูดว่า จะไม่ยอมเลื่อนเปิดภาคเรียนให้ตรงกับอาเซียน เพียงแต่ยังไม่มีเหตุผลเพียงพอให้ สพฐ.ต้องเลื่อน จากที่ สพฐ.ไปศึกษาระบบเปิดปิดภาคเรียนของโรงเรียนขั้นพื้นฐานทั้ง 10 ประเทศที่เป็นสมาชิกอาเซียน พบว่า มีกำหนดเปิดภาคเรียนในช่วงเวลาที่หลากหลาย ขณะเดียวกัน นักเรียนในระดับการศึกษาขั้นพื้นฐานมีถึง 10 ล้านคน ก่อนตัดสินเลื่อนหรือไม่เลื่อนเปิดภาคเรียนนั้น จึงต้องพิจารณาให้รอบครอบก่อน โดยเฉพาะการวิเคราะห์ผลกระทบที่จะตามมา อย่างไรก็ตาม หาก สพฐ.ตัดสินใจเลื่อนกำหนดเปิดภารเรียนออกไปจริง ก็จะให้เริ่มดำเนินการในปีการศึกษา 2557 และคงต้องต้องมีการเลื่อนปฏิทินการรับนักเรียนตามด้วย” เลขาธิการ กพฐ.กล่าว
Credit http://manager.co.th/QOL/ViewNews.aspx?NewsID=9550000136244