จากกรณีที่นายปลอดประสพ สุรัสวดี รัฐมนตรี
ว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
ในฐานะประธานคณะกรรมการบริหารจัดการน้ำและอุทกภัย (กบอ.)
เตือนประชาชนว่าอย่าออกจากบ้านเรือนถ้าไม่จำเป็น รวมทั้งมีเเผนอพยพประชาชน
เพื่อเปิดพื้นที่ในการรับมือพายุแกมี ในวันที่ 7-9 ต.ค.
นายสมชาย ใบม่วง รอง
อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา กล่าวว่า พายุลูกนี้ในวันที่ 5
ต.ค.จะขึ้นฝั่งที่เวียดนาม โดยจะเคลื่อนตัวมาทางตะวันตกอย่างช้าๆ
เเละเริ่มมีผลกระทบทางภาคอีสานตอนล่าง ภาคตะวันออก
เเละภาคใต้ตะวันตกของไทย เเละในวันที่ 6
ต.ค.พายุลูกนี้จะผ่านเข้าสปป.ลาวกับกัมพูชา เเต่ลดความรุนเเรงลง
เเละเมื่อพายุลูกนี้เข้าไทย
จะลดความรุนเเรงเหลือระดับดีเปรสชั่นในช่วงวันที่ 7 ต.ค.
เเล้วในช่วงค่ำวันนั้นกลุ่มฝนอาจจะเต็มพื้นที่ประเทศไทย
เพราะพายุนี้จะอยู่ตรงกลางประเทศ
อิทธิพลจะครอบคลุมหลายร้อยกิโลเมตร จากนั้นวันที่ 8
ต.ค.พายุจะเริ่มเคลื่อนตัวออกไปยังอ่าวเมาะตะมะ
เเละขยับไปในภาคตะวันตกของไทย
โดยพื้นที่ในช่วงข้างต้นที่ตนกล่าวมาเเล้วจะพ้นจากพายุนี้ จากนั้นวันที่ 9
ต.ค.ไทยจะพ้นจากพายุลูกนี้
เมื่อถามว่ามีความจำเป็นต้องอพยพประชาชนหรือไม่ นายสมชายกล่าวว่า
ไม่ถึงขั้นนั้น เพราะเป็นพายุลูกเเรกของปีนี้
เเละเป็นพายุโซนร้อนหากเทียบกับพายุไหหม่าเมื่อปีที่เเล้วนั้น
มันเป็นพายุดีเปรสชั่นที่ทำให้ฝนตกเยอะเช่นกัน
เเต่ความรุนเเรงอยู่ที่การเคลื่อนตัวของพายุกับสภาพเเวดล้อมในพื้นที่
หากผ่านเส้นทางภูเขาก็ไม่มีผลเยอะ เเต่หากผ่านพื้นที่ราบก็มีผลเยอะ
และวันที่ 7-9 ต.ค.ประชาชนเพียงเเค่พกร่มติดตัว ส่วนพื้นที่ชายฝั่งก็รอฟังข่าวเเต่
ไม่ถึงขั้นต้องอพยพตามที่มีกระเเสข่าวออกมาหยุดงานเพื่อเปิดพื้นที่ในการรับ
มือพายุนี้ในวันที่ 7-9 ต.ค.รวมทั้งมีเเผนอพยพประชาชนด้วย