มจธ.สนอง
รับประชาคมอาเซียน เลื่อนเปิดเทอมเป็นวันที่ 14 ส.ค.ทุกคณะ ตั้งแต่ปีนี้
เกทับถ้าทำได้ก่อนมหาวิทยาลัยอื่น นักศึกษาก็จะได้ประโยชน์ก่อน
รับปากหากปรับแล้วมีปัญหาจะเปลี่ยนให้เหมาะสม
โดยคำนึงถึงประโยชน์นักศึกษาเป็นสำคัญ
หลังที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทย (ทปอ.)
มีข้อสรุปให้มหาวิทยาลัยของไทยทั้งหมดต้องเลื่อนการเปิดปิดเทอมให้ตรงกับ
ประชาคมอาเซียน ล่าสุด มี 3 มหาวิทยาลัยที่สนใจทดลองจะนำร่องในปี 2555 นี้
ได้แก่ มหาวิทยาลัยนเรศวร (มน.) มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (มธ.)
และมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี (มจธ.)
ผศ.ดร.บัณฑิต ทิพากร รอง
อธิการบดีฝ่ายพัฒนาการศึกษา มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี (มจธ.)
เปิดเผยว่า ที่ประชุม
ทปอ.มีข้อสรุปให้มหาวิทยาลัยทั่วประเทศเริ่มการเลื่อนเปิดปิดเทอมในปี 2557
แต่คณะกรรมการบริหารของ มจธ.เล็งเห็นว่า หาก
มหาวิทยาลัยใช้เวลาที่มีอยู่ 2 ปีนี้เริ่มดำเนินการก่อนมหาวิทยาลัยอื่นๆ
จะทำให้ มจธ.มีเวลาในการศึกษาเรียนรู้ และปรับตัวมากกว่ามหาวิทยาลัยอื่นๆ
เมื่อถึงเวลาปฏิบัติจริงจะได้พบข้อผิดพลาดน้อยที่สุด ในขณะเดียวกัน
มหาวิทยาลัยจะใช้เป็นโอกาสในการพัฒนาปรับปรุงระบบการเรียนการสอนเดิมที่เป็น
อยู่ให้มีคุณภาพมากขึ้น
ผศ.ดร.บัณฑิต กล่าวอีกว่า การ
เลื่อนเปิดเทอมให้ใกล้เคียงหรือตรงกับประเทศส่วนใหญ่อื่นๆ
จะเอื้อประโยชน์ให้การเคลื่อนย้ายไปศึกษาชั่วคราวในมหาวิทยาลัยของประเทศ
ต่างๆ มีประสิทธิภาพ เนื่องจากเรียนได้ครบภาคการศึกษา ถ้า
มจธ.ทำได้ก่อนนักศึกษาของเราก็จะได้รับประโยชน์ก่อนเช่นกัน
ผศ.ดร.บัณฑิต กล่าวต่อว่า
การเลื่อนเปิดปิดเทอมที่ไม่ได้ทำพร้อมกันทั้งประเทศ
อาจส่งผลกระทบกับนักศึกษาในชั้นปีสุดท้ายบ้าง
แต่ก็เป็นโอกาสดีที่จะได้มีการปรับปรุงแก้ไขปัญหาต่างๆ ที่มหาวิทยาลัยเคยพบ
ด้านการจัดการเรียนการสอน และการสอบให้มีคุณภาพมากขึ้น โดย
เฉพาะเรื่องการวันหยุดยาวในช่วงเทศกาลต่างๆ
ให้ไม่มีผลกระทบกับตารางเวลาเรียนของนักศึกษา
อย่างภาคการศึกษาที่หนึ่งของปริญญาตรี จะเริ่มตั้งแต่วันที่ 14 สิงหาคม
และสอบวันสุดท้ายของภาคเรียนแรกในวันที่ 14 ธันวาคม
จากเดิมเป็นช่วงเดือนตุลาคม ทั้งนี้
เพื่อให้นักศึกษามีวันปิดเทอมในช่วงคริสต์มาสและปีใหม่พอดี
และให้อาจารย์มีเวลาตรวจข้อสอบให้เสร็จก่อนวันหยุดสิ้นปี
ขณะที่การเปิดภาคเรียนที่ 2 จะอยู่ในช่วงตั้งแต่วันที่ 7 มกราคม ถึง วันที่
22 พฤษภาคม โดยจะมีวันหยุดช่วงสั้นๆ 10 วัน ตั้งแต่วันที่ 6-16 เมษายน
เพื่อให้นักศึกษา และประชาคม มจธ. ได้ใช้เวลากับครอบครัวตามประเพณีไทย
ผศ.ดร.บัณฑิต กล่าวด้วยว่า หากนักศึกษาชั้นปี 4
มีความกังวลเรื่องการสำเร็จการศึกษาที่จะล่าช้ากว่ามหาวิทยาลัยอื่นๆ 2
เดือนนั้น มหาวิทยาลัยได้เตรียมมาตรการรองรับไว้แล้ว
โดยอาจจะกำหนดให้ภาคเรียนที่สองของนักศึกษาปี 4 เป็นสองช่วง คือ
มิถุนายน-กรกฎาคม และ มกราคม-มีนาคม
ซึ่งโครงงานสามารถเริ่มได้ตั้งแต่ช่วงเดือนมิถุนายน
แน่นอนการปรับเปลี่ยนต่างๆ ย่อมจะมีปัญหา ซึ่งเราจะต้องทำการแก้ไขเป็นกรณีๆ
ไป
ส่วนกรณีที่นักศึกษาใหม่ชั้นปีที่ 1
ในขณะที่สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.)
ยังคงกำหนดการเปิดปิดภาคเรียนเหมือนเดิมนั้น
เชื่อว่าไม่เป็นปัญหาแต่อย่างใด เพราะ มจธ.ต้องการช่วงเวลาให้นักเรียนมัธยม
ได้มีเวลาปรับความพร้อม และเตรียมตัวในการเป็นนักศึกษาอุดมศึกษา การมีเวลา
2 เดือนก่อนเปิดภาคเรียนจริง
จะทำให้มหาวิทยาลัยสามารถใช้โอกาสนี้เตรียมนักศึกษาปี 1
ทั้งด้านวิชาการและจิตใจ โดยจะจัดให้มีกิจกรรมอย่างสร้างสรรค์
ในช่วงระยะเวลาดังกล่าว
“หากการเปลี่ยนแปลงครั้ง
นี้ไม่ใช่ว่าปรับแล้วต้องปรับเลย ถ้าดำเนินการไปแล้วพบว่ามีปัญหามาก
มหาวิทยาลัยมีสิทธิ์ที่จะปรับเปลี่ยนแก้ไขให้เหมาะสม
เพื่อให้นักศึกษาได้รับประโยชน์อย่างแท้จริง ซึ่ง
มจธ.พยายามทำความเข้าใจกับนักศึกษาให้คำนึงถึงโอกาสที่นักศึกษาจะได้รับ
เมื่อต้องไปสู่ตลาดแรงงานในประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน วันนี้นักศึกษาจะ
ไม่ได้อยู่เฉพาะในรั้ว มจธ.กรุงเทพฯ หรือประเทศไทยเท่านั้น
แต่นักศึกษาต้องรู้ว่า ขณะนี้โลกของพวกเขาได้เปิดกว้างออกไปแล้ว
และมีหลายอย่างที่พวกเขาต้องเปิดประตูออกไปค้นหา ออกไปเรียนรู้ นี่คือ
สิ่งที่ มจธ.พยายามทำให้นักศึกษาเข้าใจ
และเป็นการเตรียมความพร้อมให้พวกเขาก้าวสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนได้อย่าง
เต็มภาคภูมิ” ผศ.ดร.บัณฑิต กล่าวทิ้งท้าย |