ภาษาจีน กับการสอบวัดระดับ

เราไม่ สามารถปฏิเสธความจริงที่ว่า จีน คือประเทศที่มีประชากรมากที่สุดในโลกได้ และนอกจากชาวจีนในประเทศแล้วยังมีชาวจีนที่อาศัยกระจายอยู่ในทุกประเทศ ทั่วทุกมุมโลก นั่นแสดงว่า ภาษาจีนย่อมมีใช้โดยทั่วไปในทุกประเทศด้วยเช่นเดียวกัน  และตอกย้ำความเป็นสากลของภาษาจีนด้วยด้วยแผนการพัฒนาของประเทศจีน ที่ต้องการขยายการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ โดยการขยายฐานอำนาจและฐานการผลิตทางเศรษฐกิจไปยังประเทศต่างๆ  ภาษาจีนก็ย่อมแพร่กระจายตามการขยายทางเศรษฐกิจด้วยอย่างแน่นอน และอาจจะเป็นไปได้ว่า ภาษาจีน จะกลายมาเป็นภาษาสากลของโลก ภาษาที่ 2 โดยไม่ยากเลยค่ะ

 UploadImage UploadImage
                น้องๆคนไหนที่มีความสามารถในการอ่าน พูด เขียน ภาษาจีน  กำลังเรียนภาษาจีนอยู่  หรือกำลังสนใจที่จะเรียนภาษาจีนเพิ่ม เป็นสิ่งที่น่าสนใจมากเลยทีเดียว เพราะในอนาคต อาจจะช่วยให้น้องๆ สามารถหางานทำได้ง่ายขึ้น สำหรับคนที่อาจจะพูด อ่านออก เขียน ภาษาจีนได้ แต่ไม่รู้ว่าเรามีความสามารถระดับไหน พี่นัทแนะนำให้น้องๆลองสอบวัดระดับความรู้ทางภาษาค่ะ ซึ่งการสอบวัดระดับในภาษาจีน แบ่งเป็น 3 ประเภทใหญ่ๆ นะค่ะ โดยแต่ละประเภท ก็จะมีวัตถุประสงค์ในการวัดและนำผลที่ได้ไปใช้งานที่แตกต่างกัน มีประเภทอะไรกันบ้างไปดูกันค่ะ

                เริ่มกันที่แบบแรกการสอบวัดระดับความรู้ภาษาจีนแบบมาตรฐาน หรือที่เรารู้จักกันในชื่อ HSK การ สอบในรูปแบบนี้ เหมาะสำหรับผู้ที่สนใจ จะเรียนต่อในประเทศจีน หรือทำงานในบริษัทที่ต้องใช้ภาษาจีนในการสื่อสารค่ะ  ชื่อเต็มของการทดสอบคือ การสอบวัดระดับความรู้ภาษาจีน HSK : Hanyu Shuiping Kaoshi  (Chinese Proficiency Test) คือ การสอบวัดระดับความรู้ภาษาจีนมาตรฐานสากลสำหรับผู้ที่ใช้ภาษาจีนเป็นภาษาที่ สอง โดยแบ่งการสอบออกเป็นสองส่วน คือ สอบข้อเขียน และ การพูด ในการสอบข้อเขียน แบ่งออกเป็น 6 ระดับ  การสอบพูด แบ่งออกเป็น 3 ระดับ คือ  ระดับต้น ระดับกลาง และระดับสูง โดยผู้ที่สมัครสอบข้อเขียนระดับ 4 ขึ้นจะไปสามารถสมัครสอบพูดได้ และการสมัครสอบข้อเขียนและสอบพูด จะต้องสมัครสอบแยกกันค่ะ

                แบบที่สอง การสอบวัดระดับความรู้ภาษาจีนสำหรับเยาวชน YCT  : Youth Chinese Test, formerly Young Learners Chinese Test  เป็นวิธีการสอบวัดระดับความรู้ภาษาจีนแบบมาตรฐานสากล โดยเป็นการทดสอบเน้นในกลุ่มนักเรียนระดับประถม และมัธยมต้น ไม่เกินมัธยมปลายค่ะ ใช้วัดความรู้ความสามารถใช้ภาษาจีนในชีวิตประจำวันและการเรียน และสำหรับน้องๆที่สนใจจะเรียนต่อประเทศจีนในระดับมัธยมค่ะ แบ่งการสอบเป็น 2 ส่วน คือ การสอบข้อเขียน จะสอบในระดับของ YCT 1 - 4  และการสอบพูด YCT ในระดับต้น   สามารถเทียบเท่ากับ YCT 1,2,3  ส่วน YCT ระดับกลาง  เทียบเท่ากับ YCT 4  ค่ะ
หลายๆคนจะมีข้อสงสัยว่า การสอบ HSK และ YCT สามารถนำมาเปรียบเทียบหรือนำมาใช้แทนกันได้หรือเปล่า พี่นัทมี การเปรียบเทียบระดับความสามารถในระดับต่างๆ ของการสอบ YCT และ HSK  มาให้ดูกัน

HSK                                     YCT (ใหม่)                            จำนวนคำศัพท์

HSK ระดับ6                           -                                              5,000 คำขึ้นไป
--------------------------------------
HSK ระดับ5                           -                                              2,500
--------------------------------------
HSK ระดับ4                           -                                              1,200
--------------------------------------
HSK ระดับ3                           YCT ระดับ4                               600
--------------------------------------
HSK ระดับ2                          YCT ระดับ3                                300
--------------------------------------
HSK ระดับ1                          YCT ระดับ2                                150
--------------------------------------
    -                                       YCT ระดับ1                                80
--------------------------------------


 UploadImage
            
สำหรับผู้ที่ทำงานแล้ว หรือต้องการที่จะทำงานในบริษัทที่ทำธุรกิจกับประเทศจีน เหมาะสำหรับการสอบแบบที่สามค่ะ การสอบวัดระดับความรู้ภาษาจีนสำหรับธุรกิจ (Business Chinese Test: BCT)   การสอบประเภทนี้คุณสมบัติของผู้สอบไม่ได้จำกัดวุฒิการศึกษา อายุ และระยะเวลาที่เรียนภาษาจีนค่ะ  ปกติแล้วการสอบ BCT จะใช้ในการรับสมัครงาน หรือเลื่อนตำแหน่งในบริษัท องค์กรทางธุรกิจ  เพราะเนื้อหาที่ใช้ในการสอบ จะเกี่ยวข้องกับธุรกิจ การบริหารงาน มากกว่าด้านวิชาการ แต่ก็สามารถนำไปใช้ประกอบการศึกษาต่อได้นะค่ะ ขึ้นอยู่กับข้อกำหนดของแต่ละสถานศึกษา  การสอบ BCT จะแบ่งเป็น การฟังและการอ่าน(BCT: Listening & Reading)และการพูดและการเขียน(BCT: Speaking & Writing)ผลสอบจะมี ตั้งแต่ระดับ 1-5  ผู้สอบจะได้ระดับใด  จะต้องดูผลรวมของคะแนนรวมและคะแนนย่อยของแต่ส่วนประกอบค่ะ


                จากการสอบถามข้อมูลจาก  อาจารย์ปนัดดา เลาหะโชติ  อาจารย์ภาควิชาภาษาจีน คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฎจอมบึง  ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า การสอบวัดระดับภาษาจีนแล้วโดยส่วนใหญ่จะเน้นการสอบ HSK เป็นหลัก ซึ่งโดยทั่วไปแล้ว HSK เหมาะสำหรับผู้ที่สนใจจะศึกษาต่อในประเทศจีน หรือผู้ที่กำลังศึกษาในแผนการเรียนภาษาจีน และต้องการวัดระดับความสามารถของตน  หากจะเรียนต่อในประเทศจีนในระดับปริญญาตรีต้องมีผล HSK  ในระดับ 4 และในระดับ 5 ขึ้นไปสำหรับการศึกษาต่อในปริญญาโท  นอกจากนี้ยังกล่าวเพิ่มเติมถึงการสอบ BCT ว่า เหมาะสำหรับที่ผู้ที่สนใจจะประกอบธุรกิจที่ต้องติดต่อกับประเทศจีน หรือพนักงาน บริษัทเอกชนมากกว่านักเรียนนักศึกษา และ YCT ซึ่งมีการจัดการสอบขึ้นใหม่ล่าสุด เหมาะกับกลุ่มนักเรียน และเด็ก ในระดับประถามศึกษาและมัธยมศึกษา  เพื่อใช้ในการวัดความรู้ความสามารถ และการสอบเพื่อศึกษาต่อ
                ทั้งนี้ อ.ปนัดดา ยังให้ข้อเสนอแนะอีกว่า จะสอบวัดความรู้ภาษาจีนในรูปแบบใด ควรจะรู้วัตถุประสงค์ของการใช้งาน เป็นหลัก เพื่อจะได้ไม่เสียเวลา และค่าใช้จ่ายในการสอบ หากสอบผิดประเภท


                มาถึงตรงนี้ น้องๆคงได้ข้อมูลในการในการตัดสินใจบ้างแล้วนะค่ะ ว่าจะเลือกสอบวัดระดับภาษาจีนแบบไหนดี  ใครที่กลังมองหา ภาษาที่ 2 -3 หรือ 4 เพื่อเพิ่มความรู้ความสามารถให้กับตัวเอง  ลองพิจารณาภาษาจีน เป็นตัวเลือกดูนะค่ะ อาจจะดูเหมือนเป็นภาษาที่เรียนยาก แต่แน่นอนว่า ภาษาจีนจะช่วยน้องๆหางานทำได้ง่ายขึ้นแน่นอนค่ะ